เมนู

[120] ดูก่อนจุนทะ สิ่งใดที่ชาวโลกพร้อมทั้งเทวโลกมารโลก
หรหมโลก อันหมู่สัตว์พร้อมด้วยสมณพราหมณ์ เทวดามนุษย์เห็นแล้ว
ฟังแล้ว ทราบแล้ว รู้แจ้งแล้ว บรรลุแล้ว แสวงหาแล้ว ตรองตามแล้ว
ด้วยใจ สิ่งนั้นตถาคตได้ตรัสรู้ยิ่งแล้วโดยชอบ เพราะฉะนั้นชาวโลกจึง
เรียกว่า ตถาคต.
ดูก่อนจุนทะ ตถาคตย่อมตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในราตรี
ใดก็ดี ย่อมปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ในราตรี ใดก็ดี ตถาคต
ย่อมกล่าว ย่อมแสดงซึ่งสิ่งใดในระหว่างนี้ สิ่งนั้นทั้งหมดย่อมเป็นอย่างนั้น
ทีเดียว ย่อมไม่เป็นอย่างอื่น เพราะฉะนั้นชาวโลกจึงเรียกว่า ตถาคต.
ดูก่อนจุนทะ ตถาคตเป็นผุ้กล่าวอย่างใด ทำอย่างนั้น เป็นผู้ทำ
อย่างใดกล่าวอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้ ตถาคตชื่อว่า เป็นผู้กล่าวอย่างใด ทำ
อย่างนั้น หรือเป็นผู้ทำอย่างใด กล่าวอย่างนั้น เพราะฉะนั้นชาวโลกจึง
เรียกว่าตถาคต. ตถาคตเป็นผู้ใหญ่ยิ่ง ไม่มีผู้ใหญ่ยิ่งกว่า เป็นผู้เห็นถ่อง
แท้ เป็นผู้กุมอำนาจ ในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ใน
หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดามนุษย์ เพราะฉะนั้นชาวโลกจึง
เรียกว่า ตถาคต ดังนี้.

ว่าด้วยทิฏฐิต่าง ๆ



[121] ดูก่อนจุนทะ ข้อนั้นเป็นฐานะที่จะมีได้ คือการที่พวก
ปริพาชกอัญญเดียรถีย์พึงกล่าวอย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุ เบื้องหน้าแต่มรณะ
สัตว์ย่อมมีสิ่งนี้แหละจริง สิ่งอื่นเปล่า หรือหนอ ดังนี้. ดูก่อนจุนทะ พวก
เธอควรกล่าวกะปริพาชกอัญญเดียรถีย์ผู้มีวาทะอย่างนี้ว่า ดูก่อนผู้มีอายุ
พระผู้มีพระภาคเจ้า มิได้ทรงพยากรณ์ไว้ว่า เบื้องหน้าแต่มรณะ สัตว์